โตโยต้า เซ็นทูรี (อังกฤษ: Toyota Century) เป็นรถยนต์นั่งประเภทหรูหราขนาดใหญ่ แบบซีดาน 4 ประตู ที่ผลิตขึ้นเฉพาะตลาดในประเทศญี่ปุ่น ในฐานะรถธงของโตโยต้า จัดเป็นรถยนต์รุ่นที่มีเกียรติภูมิสูงสุดในบรรดารถโตโยต้า, เล็กซัส รวมถึงยี่ห้อในเครือโตโยต้าทั้งหมด ซึ่งในปัจจุบัน เซ็นทูรียังเป็นหนึ่งในรถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น (ร่วมกับ เล็กซัส แอลเอส 600เอชแอล รุ่นปัจจุบัน), รถในขบวนรัฐพิธี, รถรับรองแขกบ้านแขกเมือง และนอกจากนี้ยังมีรุ่นพิเศษ โตโยต้า เซ็นทูรี รอยัล ซึ่งเป็นพระราชพาหนะในสมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ และยานพาหนะเพื่อการรับรองพระราชอาคันตุกะในสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีญี่ปุ่นอีกด้วย
การผลิตรุ่นแรกเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1967 ตลอดเวลาที่ผ่านมา รูปลักษณ์ของเซ็นทูรีได้ปรับเปลี่ยนไปเพียงน้อยมาก ซึ่งเซ็นทูรีเอง จัดว่าเป็นรถยนต์ซีดานญี่ปุ่นที่ถูกผลิตขึ้นมาเป็นลำดับที่สาม ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยที่ชื่อ "เซ็นทูรี" นั้น มาจากการครบรอบวันคล้ายวันเกิดปีที่ 100 ของซะกิชิ โทะโยะดะ ผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมรถยนต์ในญี่ปุ่นและผู้ก่อตั้งกลุ่มอุตสาหกรรมโตโยต้า
เซ็นทูรีรุ่นแรกสุดนั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 ในขณะที่รุ่นปัจจุบัน เป็นเครื่องยนต์ V12 จัดว่าเป็นรถยนต์ซีดานเพียงรุ่นเดียวของญี่ปุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดนี้ แม้ว่าเซ็นทูรีจะเป็นรถยนต์ซีดานหรูขนาดใหญ่ที่มีความพิเศษ แต่ก็ไม่ได้มีจำหน่ายในนามหรือศูนย์ฯของเล็กซัส ที่จัดเป็นตรารถยนต์ชั้นหรูของโตโยต้า แต่มีจำหน่ายเฉพาะในศูนย์เครือ Toyota Store เท่านั้น
ลักษณะภายนอกของเซ็นทูรีทั้งสองรุ่นนั้น มีข้อแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย เค้าโครงทั้งหมดยังคงความเป็นเซ็นทูรีแบบรุ่นแรก เนื่องจากเซ็นทูรี่เป็นรถยนต์แสดงถึงการประสบความสำเร็จในเชิงอนุรักษนิยมและความเป็นญี่ปุ่นอย่างเข้มข้น รูปโฉมของเซ็นทูรีเป็นที่โดดเด่นในประเทศเอเชียตะวันออก จากการที่มันมีสีดำเงา แม้ว่าในอดีต นิสสัน พรีซิเดนท์ ซึ่งเป็นรถระดับเดียวกัน จัดเป็นคู่แข่งโดยตรงกับเซ็นทูรี แต่พรีซิเดนท์จะประสบความสำเร็จในแนวของความร่วมสมัยและมีความเป็นตะวันตกมากกว่าเซ็นทูรี
เดิมทีนั้น โตโยต้า คราวน์ คือรถยนต์ที่หรูหราที่สุดที่โตโยต้ามี แต่คราวน์นั้นถือเป็นรถประเภทหรูหราขนาดกลาง (ระดับเดียวกับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส, นิสสัน เซดริค, พรินซ์ กลอเรีย) แต่ต่อมา เมื่อตลาดรถญี่ปุ่นเริ่มมีบุคคลชั้นสูงต้องการยานยนต์ที่มีเทคโนโลยีและความหรูหรามากขึ้นจนกระทั่งรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นเท่าที่มีขณะนั้นยังไม่สามารถตอบสนองได้ ดังนั้น ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นหลายรายจึงเริ่มสร้างรถยนต์ที่มีความหรูหรามากขึ้น ให้เทียบเท่ารถยนต์ประเภทหรูหราขนาดใหญ่ โดยช่วงแรกมักจะเป็นรุ่นพิเศษของรถยนต์รุ่นที่มีอยู่แล้วไปก่อน เช่น "นิสสัน เซดริก สเปเชียล" เป็นต้น สำหรับโตโยต้าก็เช่นกัน ในปี ค.ศ. 1964 (พ.ศ. 2507) ได้เปิดตัวรุ่นพิเศษคือ "โตโยต้า คราวน์ 8" ซึ่งมีพื้นฐานมาจากโตโยต้า คราวน์ รุ่นที่สอง (S40) แต่จะมีขนาดตัวถังใหญ่กว่าคราวน์รุ่นปกติ (โดยขนาดขึ้นไปใกล้เคียงกับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส W111 ในยุคเดียวกัน) เครื่องยนต์ 2.6 ลิตร V8 รหัส 3V
นอกจากนี้ Crown 8 ยังติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานมาเป็นจำนวนมาก คือ กระจกหน้าต่างไฟฟ้า, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control), ระบบประตูดูดด้วยแม่เหล็ก, เกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด และอีกมากมาย ซึ่งนับเป็นอุปกรณ์ที่หาได้ยากยิ่งในรถยนต์ยุค พ.ศ. 2507 ต่อมา โตโยต้าได้พัฒนาคราวน์ 8 รุ่นที่สอง แต่รุ่นใหม่นี้จะแยกออกมาเป็นรุ่นอิสระไม่ใช้ชื่อคราวน์ 8 อีกต่อไป โดยตั้งชื่อใหม่ว่า เซ็นทูรี นั่นเอง
เซ็นทูรีปี 1967 มีการติดตั้งเครื่องยนต์ 3.0 L 3V และในปี 1973 ด้วยเครื่องยนต์ 3.4 L 4V-U และก็มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์อีกครั้งเป็น 4.0 L 5V-EU ในปี 1982 พร้อมกับการติดตั้งหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง โปรดทราบว่า 3V, 4V-U และ 5V-EU ไม่ได้หมายถึงจำนวนของหัวสูบในเครื่องยนต์ เป็นเพียงชื่อรุ่นของเครื่องยนต์โตโยต้าเท่านั้น
โตโยต้า เซ็นทูรี รุ่นแรกสามารถครองความประทับใจจากผู้โดยสารเป็นเวลานานกว่า 30 ปีตลอดช่วงเวลาของมัน และไม่ถูกแก้ไขใดๆนอกจากการเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์และรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเพื่อความงดงาม เซ็นทูรีมีการผลิตในจำนวนจำกัด และในด้านการผลิตนั้น เซ็นทูรียังเข้าข่ายค่านิยมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ "เกือบทำมือ" ด้วยความเป็นที่สุดของเซ็นทูรีนี้เอง ทำให้มันถูกใช้เป็นรถยนต์สำหรับสมาชิกพระราชวงศ์, นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น, บุคคลสำคัญในรัฐบาล และผู้บริหารระดับสูง
เซ็นทูรีได้รับการออกแบบอย่างสมบูรณ์ในปี 1997 แม้ว่ารูปลักษณ์ใหม่จะมีลักษณะคล้ายกับรุ่นแรกมาก แต่ในรุ่นปัจจุบันนี้ ถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 280 PS (206 kW; 276 แรงม้า) 5.0 L 1GZ-FE V12 ที่มาพร้อมกับเกียร์ 5-สปีด อัตโนมัติ และ 6-สปีด อัจฉริยะ นอกจากนี้ยังมีระบบช่วงล่างแบบถุงลม (air suspension) เซ็นทูรีรุ่นใหม่นี้ ถือเป็นรถยนต์ญี่ปุ่นรุ่นแรก ที่มีเครื่องยนต์ V12 อยู่ด้านหน้า
เนื่องจากเซ็นทูรี เป็นรถที่หรูหราที่สุดของโตโยต้าตลอดกาล ดังนั้นนับตั้งแต่ปี 1967 แม้จะมีผู้ใช้งานน้อยมาก แต่โตโยต้าก็มีการบำรุงรักษาเซ็นทูรีเป็นอย่างดี เพื่อรักษาสถานภาพนี้ไว้แม้กระทั่งในปัจจุบัน ทุกวันนี้เซ็นทูรีมีเกียรติและศักดิ์ศรีเหนือกว่ารถญี่ปุ่นทุกรุ่นแม้กระทั่งเล็กซัส นอกจากนี้ เซ็นทูรียังแบ่งปันฐานะรถธง ร่วมกับคราวน์ มาเจสตา ที่มีขนาดเกือบจะเท่ากับเซ็นทูรี แต่มีลักษณะบางประการที่ดูทันสมัยมากขึ้นซึ่งสามารถดึงดูดลูกค้าที่มีอายุน้อยกว่า
เหมือนกับสุดยอดรถหรูอื่นๆ เซ็นทูรีได้รับการออกแบบให้เอาใจใส่ผู้โดยสารด้านหลังเป็นพิเศษ จะเห็นได้ว่าเบาะหลังสามารถปรับเอนได้และมีระบบนวดในตัว และมีแผงควบคุมระบบอำนวยความสะดวกต่างๆเกือบทุกอย่างในรถอยู่ในพนักพิงแขนด้านหลัง ประตูรถหลังสามารถเปิดเองได้ด้วยระบบไฟฟ้า เซ็นทูรี่รุ่นปัจจุบันนี้ ในปัจจุบันสนนราคาอยู่ที่ 12,080,000 เยน แต่ในทศวรรษที่แล้ว ราคาสูงกว่าปัจจุบันอยู่มาก
โตโยต้า เซ็นทูรี รอยัล เป็นรถยนต์พระราชพาหนะประจำสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ
เซ็นทูรี รอยัล เป็นเซ็นทูรีที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษ สนนราคาอยู่ที่ 52,500,000 เยน ซึ่งถูกผลิตตามคำร้องขอจากสำนักพระราชวังญี่ปุ่น เพื่อใช้งานเป็นรถยนต์พระที่นั่งสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง เซ็นทูรีรุ่นพิเศษนี้ ภายในห้องโดยสาร เบาะถูกหุ้มด้วยหนังสัตว์ชนิดพิเศษ รองเยื้องก้าวตรงขอบประตูด้วยแกรนิต หลังคาถูกบุด้วยกระดาษสา ในด้านสมรรถนะ ใช้เครื่องยนต์ร่วมกับเซ็นทูรี รุ่นที่สอง 5.0 L-V12 280 แรงม้า (206 kW; 276 bhp) ในด้านการรักษาความปลอดภัยก็เป็นไปตามมาตรฐานของรถสำหรับผู้นำประเทศ
เดิมที โตโยต้าจะผลิตเซ็นทูรี รอยัล เป็นจำนวนเพียง 5 คันตามคำร้อง แต่เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูงและเกินความจำเป็น จึงได้ผลิตออกมาเพียง 4 คันเท่านั้น ซึ่งหนึ่งในสี่นี้ เป็นรถสำหรับรับ-ส่งผู้นำต่างประเทศ หรือแขกในพระองค์ มายังพระราชวังโตเกียว ในโอกาสที่เข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดิ